สารบัญวันนี้

ทำไมหลายคนขาด ‘คาเฟอีน’ ได้ยาก ?

“คาเฟอีน บนโลกนี้มีผู้คนทานคาเฟอีนถึง 100,000,000 กิโลกรัม/ปี ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่มีการใช้มากที่สุดในโลก”

คาเฟอีน คือ ผลผลิตที่เกิดขึ้นทั้งจากธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้น โดยมักผสมอยู่ในเครื่องดื่ม จำพวก ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม ช็อกโกแล็ต และในยา แม้แต่ในกาแฟดีแคฟที่ัระบุว่าปราศจากคาเฟอีนก็ยังคงมีคาเฟอีนอยู่

แล้วทำไมคาเฟอีนจึงได้รับความนิยม อาจกล่าวได้ว่าเพราะคาเฟอีนช่วยให้คนเราตื่นตัว โฟกัส มีความสุข ทั้งรู้สึกมีพละกำลังได้ ถึงแม้ว่าเราจะพักผ่อนไม่เพียงพอก็ตาม แต่ก็อาจทราบกันดีว่าคาเฟอีนก็สามารถทำให้ความดันสูงขึ้น เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ รู้สึกกระสับกระส่าย ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ท้องเสียบ่อยขึ้น อาจทำให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตามความสามารถของคาเฟอีนที่มีผลต่อมนุษย์จนครองใจผู้คนได้มีอีกมากไม่ว่าจะเป็นคาเฟอีนจะทำงานเป็นตัวเร่งการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ตื่นเนื่องจากไปกั้น adenosine (โมเลกุลที่ทำให้ง่วงในร่างกาย เกิดจากการแปลง ไขมัน หรือน้ำตาล เป็น พลังงาน) ไม่ให้ทำงานอย่างปกติในสมอง ในสมองของเราจะมีตัวรับ adenosine ที่มีรูปทรงที่เข้าล็อคพอดีกัน กับตัว adenosine เมื่อเข้าล็อคแล้ว ก็จะปล่อยสารที่ทำให้ เซลล์ในร่างกายสื่อสารกับเซลล์สมอง ทำให้ทำงานได้ช้าลงทำให้ง่วง แต่คาเฟอีนนั้นมีหน้าตาคล้ายกับ adenosine เมื่อไปเขาคู่กับตัวรับของ adenosine จะช่วยไม่ให้ adenosine ทำงานทำใหัไม่ง่วงนั่นเอง

คาเฟอีนทำให้อารมณ์ดี Adenosineนั้นถ้าเข้าคู่กับตัวรับแล้ว จะทำให้ dopamine (ฮอร์โมนที่ทำใหรู้สึกมีความสุข) ทำงานได้ยากขึ้น แต่ถ้าเป็นคาเฟอีนที่เข้าคู่กันกับตัวรับนั้น โดพามีนจะสามารถเข้ากับตัวรับได้เป็นปรกติ

อีกทั้งในบางงานวิจัยพบว่าในผู้สูงอายุ การกินคาเฟอีน ช่วยลด ความเสี่ยงของการเกิด อัลไซเมอร์ พากินสัน และมะเร็งบางชนิดได้ด้วย

คาเฟอีนยังช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น และแสดงความสามารถได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยนั่นคือเหตุผล ในวงการกีฬา ว่าถ้าหากพบว่าในร่างกายมีคาเฟอีนเกินเกณฑ์ นักกีฬาก็จะถูกตัดสิทธิ์

แต่ถึงอย่างไรก็ดี ความสามารถที่เหลือล้นก็ยังมีข้อเสียอยู่ เพราะการใช้คาเฟอีน เต็มไปด้วยข้อควรระวังเพราะของหลาย ๆ อย่างที่เป็นส่วนผสมก็จะส่งผลต่อร่างกายเราในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็ก โดยในประเทศอังกฤษ แนะนำว่าไม่ควรรับประทานเกิน 400 mg. ต่อวัน และอาจน้อยกว่านั้นในผู้ตั้งครรภ์และผู้สูงอายุ

อีกข้อควรทราบ คือ ร่างกายคนเราสามารถปรับตัวกับปริมาณการรับประทานคาเฟอีนได้ เนื่องจากถ้าคาเฟอีนไปเข้าคู่กับตัวรับแล้วมี adenosine เหลืออยู่มาก ร่างกายจะสร้างตัวรับ adenosine มาเพิ่ม เพื่อให้ร่างกายทำงานเหมือนเดิม แต่ก็จะสลายไปเองเมื่อไม่ได้ถูกใช้งาน นี่จึงเป็นเหตุผลที่บางคนต้องการคาเฟอีนมากกว่าคนอื่นเพื่อจะให้ส่งผลในระดับเท่า ๆ กัน และหากในบางคนที่เลิกรับประทานคาเฟอีน อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว เหนื่อย หรือ อารมณ์ที่ไม่คงที่ แต่ตัวรับเหล่านั้นจะทำลายตัวเองไปภายในไม่กี่วันหลังจากเลิกกินคาเฟอีนแล้วร่างกายจะปรับตัวเองได้

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : https://ed.ted.com/lessons/how-does-caffeine-keep-us-awake-hanan-qasim https://www.nhs.uk/news/genetics-and-stem-cells/four-cups-of-coffee-not-bad-for-health-suggests-review/ https://www.dietitians.ca/Downloads/Factsheets/What-is-caffeine.aspx

Facebook
Twitter
LinkedIn
Reading with a Baker

Reading with a Baker

เรื่องอื่น ๆ ใด ๆ

Shopping Cart

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า