ปัจจุบัน การมีสุขภาพและรูปร่างที่ดีไม่ใช่เรื่องที่ยาก เพราะมีกลวิธี รูปแบบการวางแผน และตัวช่วยต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้นมาให้ทุกคนได้เลือกสรรจนพบวิธีการที่ใช่และเหมาะสมกับตนเอง
วิธีการลดน้ำหนักแบบที่หลายคนเรียกติดปากว่า ‘การทำ IF’ หรือ ‘Intermittent Fasting’ คือการควบคุมการรับประทานอาหารให้เป็นช่วงเวลา ซึ่งจะมีมีทั้งช่วงที่ต้องรับประทานอาหาร และงดรับประทานอาหาร เพื่อให้อินซูลินลดลงและทำให้ร่างกายปลดปล่อย Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการเผาผลาญไขมัน จนกระทั่งร่างกายดึงไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายของเราออกมาใช้ โดยการทำ IF ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีอยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่
- The 5 : 2 เป็นการควบคุมการรับประทานอาหารให้ได้แคลอรี่ 500-600 แคลอรี่ เป็นเวลา 2วัน/สัปดาห์ เท่านั้น
- Eat-Stop-Eat เป็นการงดรับประทานอาหารเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ใน 1-2 วัน/สัปดาห์
- The 16/8 Method เป็นการควบคุมการรับประทานอาหารของแต่ละวัน ให้อยู่ในช่วงเวลาเพียง 6 ชั่วโมง และงดทานอาหารเป็นเวลา 18 ชั่วโมง
การทำ IF สามารถทำได้ง่าย และกำลังได้รับความนิยมจากผู้คนในปัจจุบันอย่างล้นหลาม ประโยชน์ของการทำ IF ใช่เพียงจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักและกลับมามีรูปร่างผอมเพรียวได้อย่างเดียว แต่การทำ IF ยังช่วยสามารถลดความเครียด โรคอ้วน และความเสี่ยงโรคมะเร็ง รวมทั้งช่วยเพิ่มความจำได้อีกด้วย
จากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุด The New England Journal of Medicine (NEJM) ได้กล่าวถึงเรื่องการทำ IF หรือ เทคนิคการทานอาหารเป็นช่วงเวลา โดยระบุว่าการงดทานอาหาร 18 ชั่วโมง และทานอาหาร 6 ชั่วโมง มีข้อพิสูจน์ว่าช่วยเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานกลูโคสมาใช้พลังงานจากไขมันแทนซึ่งทำให้เกิดสารคีโตนที่จำเป็นได้ ที่จะถูกปล่อยออกมาเฉพาะในช่วงอดอาหารเท่านั้น ทำให้มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้
นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมน้ำตาลกลูโคส ที่จะช่วยเรื่องการต้านทานความเครียด และยับยั้งการอักเสบ รวมถึงลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.nejm.org/doi/full/10.1056/NEJMra1905136