ตัวย่อ ‘GI’ เป็นคำย่อที่หลายคนน่าจะผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแล้วจากในหลายบทความ ว่าเป็นตัวย่อของ ค่าดัชนีน้ำตาล หรือ Glycemic index แต่ทราบไหมคะว่าเจ้าตัวย่อ GI สามารถหมายถึงค่าวัดได้อีกหนึ่งประเภท นั่นก็คือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ Geographical indication นั่นเองค่ะ ซึ่งวันนี้เราจะมาทำความรู้จักค่า GI นี้กันค่ะ ว่าคืออะไร? แล้วทำไมถึงเคยได้ยินว่าค่านี้มีอยู่ใน ‘เนย’ พร้อมแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ
ทำความรู้จัก Geographical indication (GI)
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ Geographical indication ที่เราเรียกติดปากกันสั้น ๆ ว่า ‘ค่า GI’ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่ง เกิดมาจากการที่เราค้นพบวัตถุดิบจากในพื้นที่ของชุมชนนั้น ๆ แล้วนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณลักษณะพิเศษ ซึ่งอาจจะหมายถึง ผลิตภัณฑ์นั้นมีคุณภาพดี มีชื่อเสียง หรือมีคุณลักษณะที่เฉพาะอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้จากวัตถุดิบที่พบเฉพาะในพื้นที่ชุมชน ที่ทุกคนน่าจะรู้จักกัน คือ ‘แชมเปญ’ (Champagne) หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีชมพูสดใสจากองุ่น 3 ชนิด ที่เรียกได้ว่าเป็นรสสัมผัสที่ดีเยี่ยมเพื่อการดื่มเฉลิมฉลอง ซึ่งแชมเปญ เป็นผลิตภัณฑ์จากองุ่นที่ปลูกอยู่ในแถบแคว้น Champagne ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น ดังนั้น ไวน์ชนิดอื่นที่ไม่ได้ทำมาจากองุ่น 3 ชนิดที่ปลูกในแชมเปญ ก็จะไม่สามารถใช้ชื่อแชมเปญได้
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นอย่าง ‘พาเมซาน’ ชีสที่ใช้โรยหน้าอาหารหลากหลายชนิด ทั้งพาสตา หรือพิซซ่า ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากวัตถุดิบในแถบแคว้น Parma, Reggio Emilia, Modena, Bologna และ Mantova ในประเทศอิตาลี ซึ่งเนยชนิดอื่นจะไม่สามารถใช้ชื่อนี้ได้ หากไม่ได้มาจากแถบแคว้นดังกล่าวของประเทศอิตาลี
‘เนย’ ชนิดใดที่มีค่า GI ?
‘เนย’ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีค่า GI โดยเนยชนิดนี้มีที่มาจากเมือง Finistere ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของแคว้น Brittany ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งพื้นที่ของเมือง Finistere มีอากาศดี ทำให้หญ้าซึ่งเป็นอาหารหลักของวัวนั้นเขียวตลอดทั้งปี เป็นผลให้น้ำนมของวัวที่ได้มีรสชาติ และสารอาหารที่มากกว่า
เนยชนิดนี้มีความพิเศษตรงที่ ใช้น้ำนมสดมาหมักกับครัว จากนั้นนำมาตีให้เข้ากันจนแยกชั้นไขมันและน้ำ จนกระทั่งได้เนยออกมาในที่สุด ความพิเศษอีกอย่างคือ เนยชนิดนี้ จะใส่ Culture หรือจุลินทรีย์ที่ทำให้มีรสเปรี้ยวลงไปตั้งแต่ตอนหมัก ต่างจากเนยชนิดอื่นที่ใส่ในตอนท้าย ทำให้เนยที่ได้มีรสสัมผัส และรสชาติที่ดีต่างจากเนยชนิดอื่น
การผลิตเนยชนิดนี้ในปริมาณ 1 กิโลกรัม จะใช้น้ำนมถึง 22 ลิตร ทั้งยังเคร่งครัดในการใช้วัตถุดิบทุกอย่างจากธรรมชาติล้วน ๆ ไม่มีสารเคมีเจือปนแน่นอน
แล้ว ‘เนย’ ทำให้อ้วนไหม?
เนยเป็นไขมันประเภทเดียวเท่านั้น ที่มีวิตามิน A ซึ่งในเนยปริมาณ 20 g. สามารถให้วิตามิน A ได้ถึง 20% ของปริมาณที่เราต้องการต่อวัน นอกจากนี้เนยยังเต็มไปด้วยกรดไขมันที่มีประโยชน์มากมายกว่า 400 ชนิดอีกด้วย
เรามักจะใช้เนยเป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารทั้งคาวหวาน อย่าง เค้ก และขนมปัง ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่า เนยเป็นตัวการที่ทำให้อ้วนแน่ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วเพียงแค่เราจำกัดปริมาณของเนย และเลือกเนยที่มีคุณภาพมาประกอบอาหาร ก็จะไม่ทำให้เราอ้วนอย่างแน่นอนค่ะ
อย่าง ‘น้องหนมปัง’ คีโตเฟรนลี่คนดีคนเดิมของเรา ก็เลือกเนยจากแคว้น Brittany มาเป็นส่วนผสมสำคัญ เพราะชื่อเสียงในด้านรสชาติ ความเป็นเอกลักษณ์ และคุณภาพที่การันตีด้วยรางวัลเนยอันดับ 1 ของยุโรป ทำให้เราเชื่อว่าวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และส่งผลดีต่อสุขภาพที่สุด บวกกับความใส่ใจ และความทุ่มเทของเรา จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ‘น้องหนมปัง’ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ดี และมีคุณภาพมากที่สุดเช่นกันนั่นเองค่ะ 🙂
ที่มา :
https://www.wipo.int/geo_indications/en/
https://www.cheese.com/parmesan/